top of page
เครื่องบินส่วนตัว
‎BRANDING.co.th - ปัดขึ้น ปัดลง สีดำ สีขาว สูง 200x2000 pixel.‎001.png

BRANDING.co.th

“เปลี่ยนเกมด้วยแบรนด์”

➡️ เวลาพูดถึงคำว่า “รีแบรนด์” หลายคนอาจนึกถึงการเปลี่ยนโลโก้ ปรับโทนสีใหม่ หรือออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ ให้ดูทันสมัยขึ้น แต่ความจริงแล้ว สิ่งเหล่านั้นเป็นเพียง “ปลายทาง” ของการสื่อสาร “ไม่ใช่หัวใจ” ของการรีแบรนด์ที่แท้จริง

➡️ การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์ (Strategic Rebranding) คือการ “ยกระดับแบรนด์ใหม่ทั้งระบบ” ตั้งแต่โครงสร้างธุรกิจ ตำแหน่งทางการตลาด ไปจนถึงวิธีการสื่อสารกับลูกค้า เพื่อให้แบรนด์ของคุณ “เล่นเกมใหม่” (ที่ใหญ่กว่า) ในสนามการแข่งขันที่รุนแรงและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ได้อย่างมั่นใจ

➡️ ในโลกธุรกิจปัจจุบัน แค่มีสินค้าดีหรือบริการดีอาจไม่พออีกต่อไป เพราะคู่แข่งสามารถลอกเลียนแบบได้ แต่สิ่งที่ลอกเลียนแบบไม่ได้คือ “ตัวตนและคุณค่าที่ชัดเจนของแบรนด์” หากแบรนด์ของคุณยังสื่อสารไม่ตรงจุด หรือภาพลักษณ์ที่มีอยู่ไม่สามารถสะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของธุรกิจได้ คุณกำลังเสี่ยงที่จะเสียโอกาสครั้งใหญ่

➡️ การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์ จึงไม่ใช่การ “แต่งหน้า” ให้แบรนด์ดูดีขึ้นชั่วคราว แต่เป็นการ “ปรับโครงสร้าง” ให้แข็งแรงกว่าเดิม เพื่อให้แบรนด์สามารถขยายสเกลธุรกิจ เจาะตลาดใหม่ และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาว

➡️ นี่คือเหตุผลว่าทำไมแบรนด์ระดับโลก และแม้แต่ SME ที่กำลังจะก้าวสู่การเติบโตขั้นต่อไป ต่างหันมาให้ความสำคัญกับการ “รีแบรนด์เชิงกลยุทธ์” เพราะมันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนภาพลักษณ์ แต่คือการเปลี่ยน “อนาคตของธุรกิจ”

✅ “รีแบรนด์เชิงกลยุทธ์” คืออะไร และสามารถ “เปลี่ยนเกม” ให้กับธุรกิจได้อย่างไร


✅ “ผลลัพธ์เชิงกลยุทธ์” ที่คุณมีโอกาสได้รับ จากการ “รีแบรนด์เชิงกลยุทธ์” อย่างแท้จริง ที่ไม่ใช่แค่ปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์

✅ สถานที่ให้บริการ

BRANDING AND SOCIAL MEDIA MARKETING STRATEGY (THAILAND) CO., LTD.

299/754 หมู่บ้าน มัณฑนา เลค วัชรพล ถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 63/2 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 10220

Call Center : 097-225-2555
LINE OA : @branding
Website : www.branding.co.th

เวลาทำการ 24 ชม. ทุกวัน

Our Services

ที่ BRANDING.co.th เราเชื่อว่าธุรกิจที่ต้องการก้าวไปอีกขั้น ไม่สามารถพึ่งเพียงแค่การทำการตลาดหรือการเปลี่ยนภาพลักษณ์เพียงผิวเผิน แต่ต้องอาศัย การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์ (Strategic Rebranding) ที่พลิกมุมมองธุรกิจใหม่ทั้งหมด เพื่อสร้างจุดยืนที่ชัดเจน แข่งขันได้จริง และต่อยอดสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

ที่บริการของเราเน้นให้คำปรึกษาเพื่อรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์ เพราะสุดท้ายแล้วแบรนด์ที่ต้องการเปลี่ยนเกมเพื่อก้าวไปอีกขั้นหรือเพื่อออกจากลูปเดิม ๆ ไม่อาจหลีกเลี่ยงการรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์ได้ โดยเราจะวิเคราะห์ถึง กลยุทธ์ธุรกิจ โครงสร้างแบรนด์ และการสื่อสาร เพื่อให้แบรนด์ของคุณไม่เพียงแค่ “สวย” แต่ยัง “ทำงานได้จริง” ในตลาด

สิ่งที่เรามุ่งเน้น

1. Strategic Brand Consulting – วิเคราะห์ วางกลยุทธ์ และกำหนดทิศทางใหม่ให้แบรนด์ของคุณ

2. Corporate & SME Rebranding – รีแบรนด์เพื่อขยายสเกลธุรกิจ วางตำแหน่งของแบรนด์ใหม่ และสร้างความแตกต่างในตลาด

3. CEO & Personal Branding – เสริมบทบาทผู้นำและเจ้าของธุรกิจให้ทรงพลังและน่าเชื่อถือ

4. Workshops & Training – เวิร์กชอปเพื่อให้คุณและทีมเข้าใจการรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์อย่างแท้จริง

5. Brand Communication Design – ออกแบบการสื่อสารที่คมชัด สร้างการจดจำ และเชื่อมโยงลูกค้าเข้ากับคุณค่าแบรนด์

เราไม่เพียง “ปรับภาพลักษณ์” แต่เราจะช่วยคุณ “เปลี่ยนเกมธุรกิจ”

ผลลัพธ์ของการทำงานกับ BRANDING.co.th คือแบรนด์ที่แข็งแรง มีจุดยืนที่ชัดเจน แตกต่าง เป็นมืออาชีพ และได้รับการวางตำแหน่งใหม่ เพื่อเปลี่ยนเกมในตลาดเดิมและก้าวสู่ตลาดใหม่ ๆ ด้วยความมั่นใจ

ภาพโปร่ง 100x100
‎BRANDING.co.th - ปัดขึ้น ปัดลง สีดำ สีขาว สูง 200x2000 pixel.‎002.png

DIGITAL MARKETING MINDSET (Private)
ลูกค้าสามารถเลือกวันเรียนได้เอง
เรียนที่ BRANDING.co.th

ภาพโปร่ง 100x100
ภาพโปร่ง 100x100
‎BRANDING.co.th - ปัดขึ้น ปัดลง สีดำ สีขาว สูง 200x2000 pixel.‎002.png

DIGITAL MARKETING MINDSET (Public)
ครั้งต่อไป ยังไม่มีกำหนดการ
เรียนที่ Miracle Grand Convention Hotel

ภาพโปร่ง 100x100
ภาพโปร่ง 100x100
‎BRANDING.co.th - ปัดขึ้น ปัดลง สีดำ สีขาว สูง 200x2000 pixel.‎002.png

Private Consult เพื่อรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์
ลูกค้าสามารถเลือกวัน Consult ได้เอง
ให้บริการที่ BRANDING.co.th

ภาพโปร่ง 100x100
ภาพโปร่ง 100x100
‎BRANDING.co.th - ปัดขึ้น ปัดลง สีดำ สีขาว สูง 200x2000 pixel.‎002.png

Private Consult สำหรับเจ้าของคลินิกความงาม
ลูกค้าสามารถเลือกวัน Consult ได้เอง
ให้บริการที่ BRANDING.co.th

ภาพโปร่ง 100x100

บางคนอาจคิดว่า “การรีแบรนด์” หมายถึงการเปลี่ยนโลโก้ สี ดีไซน์ หรือความสวยงาม (CI) แต่ถ้าคุณพูดถึง “การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์” (Strategic Rebranding) จะลึกกว่านั้นมาก มันคือการ “วางตำแหน่งใหม่ให้กับทั้งธุรกิจ” เพื่อให้สอดคล้องกับ “ตลาดเป้าหมาย” “สร้างความแตกต่างที่ชัดเจน” และ “เปิดประตูสู่การเติบโตที่ใหญ่กว่า”

“การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์” คือการทบทวน “กลยุทธ์ธุรกิจ + ตำแหน่งของแบรนด์ + จุดยืนของแบรนด์ + ภาพลักษณ์ + การสื่อสาร” ใหม่ทั้งหมด

โดยมีเป้าหมายเพื่อ

➡️ กำหนดตำแหน่งใหม่ในตลาด (Repositioning)

➡️ สร้างคุณค่าที่เหนือกว่าการแข่งขันด้านราคา

➡️ ปรับแบรนด์ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตระยะยาว

➡️ เชื่อมโยงคุณค่าธุรกิจกับความคาดหวังของลูกค้าอย่างแม่นยำ


✅ แล้วการรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์มันเปลี่ยนเกมให้ธุรกิจได้อย่างไร?


➡️ จากแข่งขันด้านราคา → สร้างมูลค่าที่เหนือราคา

แทนที่จะถูกบีบด้วยการแข่งขันราคาที่ไม่จบสิ้น การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์จะทำให้คุณยืนอยู่ในตลาดด้วยคุณค่าที่แตกต่าง ลูกค้าเลือกคุณเพราะ “แบรนด์” ไม่ใช่เพราะราคาที่ถูกที่สุด

➡️ จาก SME ธรรมดา → แบรนด์ที่พร้อมสเกล

หลาย SME ติดเพดานการเติบโตมานานหลายปี เพราะ “แบรนด์ไม่แข็งแรงพอที่จะเข้าสู่ตลาดใหม่หรือเจรจากับพาร์ทเนอร์รายใหญ่” การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์จะสร้างภาพลักษณ์และจุดยืนที่ทำให้คุณ “น่าเชื่อถือสูง” และ “คู่ค้าต้องการร่วมงานกับคุณ” รวมถึงพาร์ทเนอร์รายใหญ่ก็จะมองคุณแตกต่างจากเดิม

➡️ จากธุรกิจที่ถูกมองข้าม → ธุรกิจที่โดดเด่น

ในตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่ง การสื่อสารที่ไม่คมชัด จะทำให้แบรนด์ของคุณ “ถูกกลืนหาย” แต่เมื่อคุณรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์ คุณจะมีจุดยืนที่แตกต่าง และเป็นที่จดจำ ลูกค้าจะเลือกคุณ เพราะคุณคือ “คำตอบที่ดีที่สุด” ไม่ใช่เป็นแค่ “หนึ่งในหลาย ๆ ตัวเลือกในตลาด”

➡️ จากแบรนด์ที่ล้าหลัง → แบรนด์ที่ทันสมัยและน่าเชื่อถือ

โลกธุรกิจไม่เคยหยุดนิ่ง การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์คือการอัปเดตทั้งกลยุทธ์และภาพลักษณ์ให้สอดคล้องกับยุคสมัย เพื่อทำให้แบรนด์ของคุณ ดูมีพลัง และไม่ตกขบวน

➡️ การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์ → ลงทุนเพื่อเปลี่ยนเกม

การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์ “คือการลงทุนเพื่อเปลี่ยนเกม” จากธุรกิจที่ “พยายามดิ้นรน” ให้กลายเป็นธุรกิจที่ “มีพลัง มีจุดยืน พร้อมขยายสู่ตลาดใหม่ ๆ ด้วยความมั่นใจ และเติบโตได้จริงอย่างชัดเจน”

➡️ แตกต่างและสามารถเหนือกว่าคู่แข่งได้

แบรนด์ที่ผ่านการวางกลยุทธ์อย่างดี จะมี “จุดยืน” และ “ภาพจำ” ที่ไม่สามารถเลียนแบบได้ง่าย ๆ ไม่ต้องแข่งขันด้วยราคาหรือการตลาดแบบสิ้นเปลือง แต่แข่งขันด้วยคุณค่าและการรับรู้เชิงลึกในใจของลูกค้า (ออกจากสงครามราคา)

➡️ เป็นตัวเลือกแรก ๆ ในใจของลูกค้า

เมื่อแบรนด์มีตำแหน่งที่ชัดเจน (Positioning) และมีการสื่อสารอย่างสม่ำเสมอในทุก Touchpoint ลูกค้าจะจดจำคุณได้ทันที และเลือกคุณเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ โดยไม่ลังเล แม้จะมีคู่แข่งจำนวนมากในตลาด

➡️ น่าเชื่อถือสูง เพื่อขายของราคาสูง

แบรนด์ที่มีโครงสร้างเชิงกลยุทธ์ จะไม่ใช่แค่สวย แต่ “มีที่มา” และ “มีเหตุผลรองรับ” ทำให้สามารถสร้าง Trust ได้ในระดับสูง ทำให้เป็นแบรนด์ที่กล้าตั้งราคาแบบพรีเมียม และมีคนเต็มใจจ่าย

➡️ ขยายธุรกิจได้ง่ายกว่าและเร็วกว่า

แบรนด์ที่มีระบบ จะสามารถต่อยอดได้ทันทีเมื่อมีโอกาส ไม่ว่าจะขยายสินค้า ขยายแฟรนไชส์ ขยายทีม หรือเปิดตลาดใหม่ ๆ เพราะรากฐานของแบรนด์แข็งแรง ไม่ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ทุกครั้ง

➡️ ลดภาระ ลดเวลา ลดค่าการตลาด

เมื่อแบรนด์พูดแทนคุณได้จริง ๆ ทุกการตลาดจะง่ายและประหยัดขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ต้องทำแคมเปญใหม่ตลอดเวลา เพราะแบรนด์คือทรัพย์สิน (Brand Asset) ที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าให้กับธุรกิจของคุณ

➡️ จัดการง่าย พึ่งตัวเองได้ ใครก็ทำได้

ระบบแบรนด์ที่วางไว้อย่างเป็นระบบ จะช่วยให้ทีมงานหรือพาร์ทเนอร์สามารถทำงานต่อได้ทันที โดยไม่ต้องอาศัยแต่เจ้าของในการตัดสินใจเรื่องการสื่อสารหรือการตลาดอีกต่อไป สามารถช่วยลดความเสี่ยงให้กับ “ธุรกิจที่ต้องพึ่งพาเจ้าของตลอดเวลา” ได้

➡️ สามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดได้

การรีแบรนด์อย่างมีกลยุทธ์ เปรียบเสมือนการเปลี่ยนจาก “จักรยาน” มาเป็น “เครื่องยนต์” จะช่วยให้ธุรกิจของคุณ สามารถเติบโตในแบบ Exponential ได้ ไม่ใช่แค่แบบเส้นตรง และยังสร้างความพร้อมในการแข่งขัน ในจังหวะที่ตลาดเปลี่ยน

➡️ เปลี่ยนตำแหน่งของแบรนด์ให้สูงขึ้น

ไม่ใช่แค่เปลี่ยนโลโก้หรือโทนสี แต่เปลี่ยน “การรับรู้ของตลาด” ว่าแบรนด์ของคุณยืนอยู่ในระดับไหน เช่น จากผู้เล่นรายย่อย กลายเป็นผู้นำในตลาด หรือจาก Local Player กลายเป็น Regional หรือ National Brand

➡️ เปลี่ยนสเกลของธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น

เมื่อแบรนด์ถูกวางรากฐานใหม่ให้แข็งแรง การสเกลธุรกิจจะไม่ใช่แค่เรื่องของการเพิ่มยอดขาย แต่เป็นการ “ยกระดับในหลายมิติ” เช่น ระบบขององค์กร โครงสร้างทีม การตลาด และการบริหารแบรนด์ในระยะยาว เป็นต้น

✅ ขอแนะนำ บริการ Private Consult เพื่อ “รีแบรนด์เชิงกลยุทธ์” (Strategic Rebranding)


✅ WHY US?


➡️ เราไม่ได้ทำให้แบรนด์แค่ “สวย” แต่ทำให้ “ขายได้” และ “โตได้จริง”

➡️ เรามีประสบการณ์กว่า 10 ปี “มีไอเดียเชิงกลยุทธ์” ที่คุณตามหา

➡️ เราออกแบบแบรนด์เชิงกลยุทธ์ “เคียงข้างเจ้าของ” ไม่ใช่แค่ทำตามบรีฟ

➡️ ทุกเคส คือ Customized Branding ที่ตรงกับความต้องการของคุณ

➡️ การให้บริการ อยู่ภายใต้ Privacy Policy ไม่ถ่ายภาพ ไม่ทำรีวิว จะไม่มีใครรู้ว่าคุณมาหาเรา


✅ WHAT WE DO?


➡️ 1. วิเคราะห์แบรนด์ปัจจุบัน

วิเคราะห์เชิงลึก ถึงสถานการณ์แบรนด์ของคุณในปัจจุบัน ทั้งในมุมมองภายใน และภาพลักษณ์ภายนอก เพื่อค้นหาจุดแพง แล้วออกแบบแบรนด์ใหม่ ให้แพงกว่าเดิม แตกต่าง ทรงพลัง และสามารถเปลี่ยนทิศทาง (เปลี่ยนเกม) ให้กับธุรกิจของคุณได้

➡️ 2. กำหนดทิศทางใหม่ของแบรนด์

ร่วมเสนอแนวคิด เพื่อออกแบบทิศทางใหม่ให้กับแบรนด์ในระดับกลยุทธ์ ทั้งในด้านวิสัยทัศน์, พันธกิจ, ค่านิยมองค์กร และเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของแบรนด์ในระยะยาว โดยเน้นการเชื่อมโยงกับเป้าหมายขององค์กร เพื่อให้แบรนด์สามารถเป็น “เข็มทิศ” ของการเติบโตอย่างยั่งยืน

➡️ 3. ออกแบบโครงสร้างแบรนด์ใหม่

ให้คำแนะนำ การวางโครงสร้างของแบรนด์ เพื่อจัดระเบียบการรับรู้ของลูกค้าอย่างเป็นระบบ และการปรับจุดยืนของแบรนด์ให้มีเอกลักษณ์ชัดเจน แข็งแกร่ง แตกต่างจากคู่แข่ง และ “มีพื้นที่” ในใจของกลุ่มเป้าหมาย

➡️ 4. กำหนดสารหลักของแบรนด์

ร่วมเสนอแนวคิด เพื่อกำหนดการสื่อสาร “สารสำคัญ” ของแบรนด์ที่ชัดเจน โดดเด่น และมีพลัง เพื่อสร้างความต่อเนื่องในการสื่อสารในทุก Touchpoint และทุกแพลตฟอร์ม ให้แบรนด์มี “สารที่ชัดเจน แตกต่าง และผู้คนจำได้”

➡️ 5. แนะนำแนวทางการวางระบบสำหรับทำตลาดออนไลน์

แนะนำแนวทางการวางระบบสำหรับทำตลาดออนไลน์ ให้สอดคล้องกับทิศทางใหม่ของแบรนด์ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการตลาดในยุคดิจิทัล และให้แบรนด์สามารถเติบโตแบบเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ (Omnichannel) และสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

➡️ 6. เป็นที่ปรึกษาให้ลูกค้า 2 เดือน เพื่อพาเปลี่ยนผ่าน (เฉพาะในส่วนของการตลาดออนไลน์เท่านั้น)

เป็นพี่เลี้ยง เพื่อพาลูกค้าเปลี่ยนผ่าน จากกลยุทธ์เดิม ไปสู่กลยุทธ์ใหม่ โดยลูกค้าสามารถติดต่อที่ปรึกษาได้ 24 ชั่วโมง ทุกวัน บริการนี้ให้บริการทุกขั้นตอน โดย คุณอลงกรณ์ ดอกดวง (Founder & MD of BRANDING.co.th) ให้บริการจากประสบการณ์กว่า 10 ปี

➡️ 7. ร่วมประชุมวางแผนกับทีมผู้บริหาร

ร่วมประชุมเชิงกลยุทธ์กับทีมผู้บริหาร เพื่อให้ทั้งทีมเห็นทิศทางใหม่ของแบรนด์เป็นภาพเดียวกัน และสามารถนำกลยุทธ์ไปใช้ได้ ทั้งในด้านการสื่อสาร การขาย การตลาด และการบริการลูกค้า

➡️ 8. โปรดทราบ

❌ บริการนี้ รับเฉพาะท่านที่เป็นเจ้าของธุรกิจเท่านั้น ไม่สามารถให้ผู้อื่นมาแทนได้

❌ บริการนี้ จะเป็นที่ปรึกษาในการสร้างแบรนด์ และอยู่ในขอบเขตของการทำตลาดออนไลน์เท่านั้น ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาด้านอื่น ๆ ให้กับลูกค้า เช่น ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย, ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาในการบริหารธุรกิจหรือการจัดการภายในองค์กร เป็นต้น

❌ บริการนี้ ไม่ใช่การรับสร้างแบรนด์ (ไม่ใช่การรับทำ)

❌ บริการนี้ ไม่ใช่การรับสร้างหรือรับดูแลสื่อออนไลน์ให้กับลูกค้า

❌ บริการนี้ ไม่ใช่การรับบริหารทีมหรือลีดทีมให้กับลูกค้า

❌ การดำเนินกลยุทธ์ตามคำแนะนำของที่ปรึกษา ให้เป็นดุลยพินิจของลูกค้า ที่ปรึกษาจะไม่ได้บังคับให้ทำตาม

❌ บริการนี้ ไม่ใช่การรับบริหารธุรกิจ ที่ปรึกษาจะไม่ได้การันตียอดขายหรือการันตีความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ

✅ บริการ Private Consult เพื่อ “รีแบรนด์เชิงกลยุทธ์” (Strategic Rebranding) ให้บริการทุกขั้นตอน โดย คุณอลงกรณ์​ ดอกดวง (Founder & MD of BRANDING.co.th) ประสบการณ์กว่า 10 ปี


✅ ผมคือ “ที่ปรึกษาการสร้างแบรนด์เชิงกลยุทธ์” (Strategic Branding Consultant) ที่พร้อมจะเดินร่วมทางไปกับคุณ เพราะทุกธุรกิจ ล้วนต้องการ “แบรนด์ที่แข็งแรง” สิ่งที่ผมทำคือ การพาธุรกิจออกจากกับดักเดิม ๆ

➡️ บางแบรนด์ เริ่มต้นจากศูนย์ และไม่รู้ว่าจะวางตำแหน่งของแบรนด์อย่างไร ให้มีจุดยืนที่มั่นคง

➡️ บางแบรนด์ กำลังเผชิญกับวิกฤติ ยอดขายหด ลูกค้าหาย ไม่มีใครจดจำแบรนด์ได้ และถูกคู่แข่งบีบให้แข่งขันด้วยราคา

➡️ บางแบรนด์ แม้จะเติบโตได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ติดเพดาน ไม่สามารถขยายตลาดได้ และไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจนในตลาด

➡️ บางแบรนด์ เป็นแบรนด์ระดับสูง เป็นธุรกิจที่มีมูลค่าสูง แต่ภาพลักษณ์และการสื่อสาร ยังไม่ทันยุค ทำให้สูญเสียความน่าเชื่อถือไปอย่างน่าเสียดาย

นี่คือ Pain Points ที่ผมเห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และมันคือเหตุผลที่ทำให้ผมเป็น “ที่ปรึกษาการสร้างแบรนด์เชิงกลยุทธ์” (Strategic Branding Consultant)

✅ ผมทำงานกับเจ้าของธุรกิจโดยตรงเท่านั้น ไม่ได้ทำงานกับพนักงานของลูกค้า และผมจะทำงานกับลูกค้าด้วยตัวเองในทุกขั้นตอนของบริการ ไม่ใช่เอเจนซี่ที่จ้างพนักงานให้มาทำงานแทนผม และผมไม่ใช่นักออกแบบ CI หรือดีไซน์เนอร์ ที่มุ่งแค่ “ทำให้แบรนด์สวย”

แต่สิ่งที่ผมทำคือ “วิเคราะห์ธุรกิจ”, “ออกแบบโครงสร้างของแบรนด์ใหม่”, “วางตำแหน่งของแบรนด์ใหม่” และ “ออกแบบกลยุทธ์เพื่อเปลี่ยนเกมให้กับธุรกิจ”

แนวทางของผม คือการเข้าไปจับ “จุดยุทธศาสตร์ที่แท้จริงของแบรนด์” เพราะมันคือแก่น คือสิ่งสำคัญที่สุด และเร่งด่วนที่สุด ที่เจ้าของแบรนด์จะต้องทำ

✅ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ใด และอุตสาหกรรมไหน

➡️ เริ่มต้นจากศูนย์ ยังมองภาพรวมไม่ออก
➡️ ไปต่อไม่ได้ ไม่รู้จะเอายังไงดี
➡️ ติดเพดาน วนอยู่ในลูปเดิม ๆ มาหลายปี
➡️ เจอวิกฤติหนัก มืดแปดด้าน หาทางออกไม่เจอ
➡️ มองหาโอกาสใหม่ ๆ และต้องการยกระดับของแบรนด์
➡️ ต้องการขยายธุรกิจ และสเกลธุรกิจใหม่

ผมจะทำงานกับคุณ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้แบรนด์ของคุณ ไม่เพียงแค่ “ดูดี” แต่ต้อง มีจุดยืนที่ชัดเจน, แตกต่าง และสร้างพลังให้ธุรกิจของคุณ สามารถเดินหน้าได้อย่างมั่นใจ

ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากศูนย์, พัฒนาต่อยอด หรือต้องการรีแบรนด์ “การสร้างแบรนด์เชิงกลยุทธ์” (หรือรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์) จะไม่ใช่แค่การเปลี่ยน “ภาพลักษณ์” แต่คือการ “เปลี่ยนอนาคต” ให้กับธุรกิจของคุณ และผมจะยืนอยู่ตรงนี้ เพื่อพาคุณก้าวไปสู่อนาคตนั้น

ธุรกิจที่มั่นคงและแตกต่าง เริ่มต้นจากแบรนด์ที่ “ชัดเจนและทรงพลังพอที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้จริง” หากคุณต้องการที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ “เพื่อเปลี่ยนเกม” ผมยินดีที่จะร่วมเดินทางไปกับคุณ บนเส้นทางของ “การสร้างแบรนด์อย่างแท้จริง”

Private Consult
เพื่อรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์

Strategic Rebranding Consultant

‎BRANDING.co.th - icon สี (โปร่ง).‎010.png

ผมแก้ปัญหาให้กับหลายแบรนด์
ด้วย “การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์”

การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์
ไม่ใช่แค่เปลี่ยน “ภาพลักษณ์”
แต่มันคือการ “เปลี่ยนเกม”
ให้กับธุรกิจของคุณ

ถ้าคุณ “เคยรีแบรนด์แล้ว”
แต่ “เกมยังไม่เปลี่ยน”
นั่นไม่ใช่การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์


✅ ใครบ้างที่ต้อง รีแบรนด์เชิงกลยุทธ์ ?


1️⃣ SME ที่ติดเพดานการเติบโต

หลายธุรกิจเริ่มจากความสามารถในการผลิตหรือความขยัน แต่เมื่อโตมาถึงจุดหนึ่ง ยอดขายกลับไม่ขยับเพิ่ม การแข่งขันรุนแรงขึ้น ราคาถูกบีบให้ต่ำลงเรื่อย ๆ เพราะ “แบรนด์” ไม่แข็งแรงพอที่จะสร้างคุณค่าเกินราคา นี่คือสัญญาณว่าคุณต้องรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์ เพื่อวางตำแหน่งของแบรนด์ใหม่ และเปิดประตูสู่การสเกลธุรกิจอย่างแท้จริง

2️⃣ แบรนด์ที่ขายของราคาสูง แต่สื่อสารไม่ถึงคุณค่า

ถ้าคุณขายของพรีเมียม แต่ลูกค้ามองว่า “แพงเกินไป” หรือลูกค้าไม่เข้าใจว่า ทำไมสินค้าของคุณ ถึงต่างจากตลาด นั่นไม่ใช่ปัญหาของสินค้า แต่คือ “ปัญหาของแบรนด์” หากคุณไม่รีแบรนด์เชิงกลยุทธ์ เพื่อสื่อสารคุณค่าให้ชัดเจน ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะมองไม่เห็นคุณค่า และท้ายที่สุดคุณก็จะถูกเปรียบเทียบด้านราคาอยู่ดี

3️⃣ ธุรกิจที่มีลูกค้ากลุ่มบน (High-End / Luxury)

ตลาดบนไม่ใช่ตลาดที่เล่นกับ “ราคา” แต่เล่นกับ “ภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ และคุณค่าที่เหนือกว่า” ถ้าแบรนด์ของคุณยังสื่อสารไม่ตรงกับความคาดหวังของกลุ่มบน คุณอาจสูญเสียความน่าเชื่อถือภายในเสี้ยววินาที การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์จะปรับจุดยืนให้คุณสอดคล้องกับความคาดหวังของลูกค้ากลุ่มบน เพื่อให้เขาเลือกคุณแทนที่จะไปหาคู่แข่ง

4️⃣ ธุรกิจขนาดใหญ่ หรือธุรกิจที่มีมูลค่าสูง

ยิ่งธุรกิจมีมูลค่าสูง ความเสี่ยงก็ยิ่งสูงขึ้น หากแบรนด์ล้าหลัง ไม่ตอบโจทย์ตลาด หรือไม่สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ ได้ ธุรกิจทั้งระบบอาจสะดุดและเสียโอกาสมหาศาล การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์คือการลงทุนเพื่อปกป้องและต่อยอดมูลค่าองค์กร

5️⃣ การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่ “ทางเลือก”

ถ้าวันนี้แบรนด์ของคุณกำลังถูกจำกัดการเติบโต ถูกบีบด้วยราคา ถูกเปรียบเทียบกับคู่แข่ง หรือไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มที่คุณต้องการ การรีแบรนด์เชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่ “ทางเลือก” แต่คือ “สิ่งจำเป็น” ที่จะพาธุรกิจของคุณก้าวสู่ระดับใหม่อย่างมั่นคง

✅ ตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษ ผมเปิดหลักสูตรและเวิร์กช็อปด้านการสร้างแบรนด์มาแล้วกว่า 100 รุ่น

ผมเริ่มต้นเส้นทางนี้ ตั้งแต่ปี 2555 ตอนนั้นผู้คนยังไม่ค่อยโฟกัสสร้างแบรนด์อย่างจริงจังเหมือนในทุกวันนี้ แต่ผมกลับหลงใหลในการสร้างแบรนด์เอามาก ๆ ผมมองการสร้างแบรนด์ให้กับธุรกิจว่าเป็นอะไรที่ลึกกว่าแค่มีช่องทางออนไลน์แล้วทำคอนเทนต์โพสต์สร้างผู้ติดตาม

ผมเห็นว่าหลายแบรนด์มีสินค้าที่ดี มีทีมที่ตั้งใจ แต่ขาดสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง คือ “แบรนด์ที่สื่อสารตัวตนและคุณค่าได้ชัดเจน” และนั่นคือจุดที่ผมเริ่มลงมือพัฒนากลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ที่เจ้าของแบรนด์สามารถนำไปใช้งานได้จริง

แรงผลักดันสำคัญในวันนั้น ไม่ได้มาจากการอยากมีชื่อเสียง แต่มาจากความหลงใหลในการสร้างแบรนด์ และประกอบกับมีผู้ติดตามผมบน Facebook จำนวนหนึ่ง บอกว่าอยากให้ผมแบ่งปันกลยุทธ์และวิธีคิดของผม (ที่ผมปล่อยของลง Facebook)

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางของผม ในฐานะ “นักสร้างแบรนด์เชิงกลยุทธ์” (Strategic Brand Builder) ที่ตั้งใจจะทำให้คำว่า “แบรนด์” กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ เข้าใจได้ และใช้ “เปลี่ยนเกม” ให้กับธุรกิจได้จริง ๆ

ตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษ ผมได้เปิดหลักสูตรและเวิร์กช็อปด้านการสร้างแบรนด์มาแล้วกว่า 100 รุ่น สิ่งที่ผมยึดถือมาโดยตลอดคือ ผมจะไม่สอนสิ่งจุกจิก แต่จะพาลูกค้า “มองภาพใหญ่”

เพราะการสร้างแบรนด์ ไม่ใช่แค่เรื่องโลโก้ สี ดีไซน์ หรือการโพสต์คอนเทนต์ แต่คือ “วิธีคิด + กระบวนการสร้างคุณค่า + ระบบ” ที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในระยะยาว ดังนั้น ทุกหลักสูตรที่ผมสอน จึงไม่ได้มุ่งให้ผู้เรียน “จดจำแค่สูตรในการทำ” แต่จะให้เข้าใจถึง “วิธีคิดของแบรนด์ที่ยั่งยืน”

ผมเชื่อเสมอว่า ถ้าเจ้าของธุรกิจเข้าใจ “แก่นของแบรนด์” เขาจะเข้าใจ “ทิศทาง” และตัดสินใจทุกอย่างได้อย่างถูกต้อง เพราะแบรนด์ที่แข็งแรง เริ่มจาก “เจ้าของที่เข้าใจตัวเองและลูกค้าอย่างแท้จริง”

✅ ในฐานะที่ผมเป็น “ที่ปรึกษาการสร้างแบรนด์เชิงกลยุทธ์” กว่า 10 ปี ผมมีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์ต่าง ๆ มาแล้วจำนวนมาก ทั้งระดับบุคคล และระดับองค์กร ตั้งแต่แบรนด์ SME ที่เพิ่งเริ่มต้น ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่

จากประสบการณ์กว่า 10 ปี ผมได้เห็น “เบื้องหลังของความสำเร็จ” และ “รอยรั่วที่ทำให้แบรนด์สะดุด” มานับไม่ถ้วน ในหลากหลายอุตสาหกรรม สิ่งที่ผมได้เรียนรู้คือ “ทุกแบรนด์มีจุดแข็งอยู่แล้วในตัว เพียงแต่ยังไม่ถูกถอดออกมาอย่างเป็นระบบ”

งานของผมจึงไม่ใช่การบอกว่า ควรเป็นอย่างไร แต่คือการ “ค้นหาตัวตนที่แท้จริงของแบรนด์นั้น แล้ววางกลยุทธ์ให้เดินต่ออย่างมั่นคง”

ผมเชื่อในการทำงานร่วมกับเจ้าของธุรกิจแบบ Real Partnership พูดตรง มองกว้างและลึก และมุ่งหาคำตอบที่ยั่งยืน ไม่ใช่คำตอบที่สวยงามฉาบฉวยเพียงชั่วคราว

แม้ลูกค้าหลายคนจะเรียกผมว่า “อาจารย์” แต่ในความเป็นจริง ผมไม่ใช่อาจารย์เลย ผมคือ นักสร้างแบรนด์ที่ใช้กลยุทธ์เป็นเข็มทิศ ผมไม่ได้มาจากสายดีไซน์ สิ่งที่ผมมองไม่ใช่แค่แบรนด์สวยดูดี แต่ผมมอง “ระบบรองรับในระยะยาว”

ทุกกลยุทธ์ที่ผมวางให้กับแบรนด์ของลูกค้า จะไม่ได้มองแค่เพื่อให้แบรนด์ดูดีในวันนี้ แต่มองเพื่อให้แบรนด์ “ยืนได้” ในอีก 3 ปี 5 ปี 10 ปี หรือยาวกว่านี้ เพราะสุดท้ายแล้ว ผมเชื่อว่า “แบรนด์ที่ยั่งยืน ไม่ได้เกิดจากการทำให้คนแค่จำได้ แต่เกิดจากการทำให้คนไว้วางใจและมีระบบรองรับ”

และนั่นคือสิ่งที่ผมทำมาตลอดกว่า 10 ปี

เปลี่ยนทิศทางที่ถูกต้อง (วิธีคิด) ให้กลายเป็นกลยุทธ์
เปลี่ยนแบรนด์ให้กลายเป็นทรัพย์สิน
และเปลี่ยนเจ้าของธุรกิจให้กลายเป็น
ผู้นำที่มีแบรนด์ในตัวเองอย่างแท้จริง


ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาให้เกียรติติดตาม

อลงกรณ์ ดอกดวง

• Founder & MD of BRANDING.co.th
• Strategic Branding Consultant
• 10+ Years of Experience



✅ ทำไม “การสร้างแบรนด์” (หรือรีแบรนด์) จึงควรมีที่ปรึกษา? (บริการนี้ ผู้ให้บริการจะเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้กับลูกค้าเป็นเวลา 2 เดือน)

➡️ 1. เพราะคุณต้องการ “คนพาทำ” ไม่ใช่แค่ “คนให้ความรู้”

ถ้าแค่เรียนรู้ แล้วกลับไปลองผิดลองถูกเอง คุณอาจ “ติดอยู่ที่เดิม” อีกหลายเดือนหรือหลายปี แต่ถ้ามีที่ปรึกษา คุณจะมี “คนพาเดินไปข้างหน้า” ทีละขั้น แบบไม่หลงทาง

➡️ 2. เพราะคุณต้องการ “เปลี่ยนเกม” ไม่ใช่แค่เปลี่ยนรูปลักษณ์

ที่ปรึกษาที่ดี จะพาคุณวิเคราะห์ “ลึกกว่า” แค่ภาพลักษณ์ภายนอก แต่จะพาคุณเปลี่ยน “แก่นของแบรนด์” และเพิ่มกลยุทธ์ที่จะทำให้ธุรกิจของคุณ “โดดเด่นกว่าคู่แข่ง” ในระดับโครงสร้าง

➡️ 3. เพราะคุณต้องการ “ขยายธุรกิจ” อย่างมั่นคง และรวดเร็ว

การสร้างแบรนด์เพื่อขยายตลาดหรือสเกลธุรกิจ ต้องมี “ระบบ” ไม่ใช่แค่แรงบันดาลใจ ที่ปรึกษาจะช่วยคุณวางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ให้พร้อมเติบโต “อย่างเป็นระบบ”

➡️ 4. เพราะคุณต้องการ “ผลลัพธ์ ไม่ใช่แค่คำแนะนำ”

ที่ปรึกษาจะทำงานเคียงข้างคุณ ช่วยวางแผน ใช้ประสบการณ์คิดแทนคุณในจุดที่ควรคิด และตรวจสอบทุกจุดอ่อนที่อาจทำให้แบรนด์ของคุณไม่ทรงพลัง

➡️ 5. เพราะคุณต้องการ “ลดความเสี่ยง”

การสร้างแบรนด์ หากวางกลยุทธ์ผิด อาจเสียลูกค้าเก่า และไม่ได้ลูกค้าใหม่ ที่ปรึกษาจะช่วยคุณวางแผน ให้การเปลี่ยนผ่านไม่มีผลกระทบ สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าเก่ามากกว่าที่เคย และสร้างลูกค้าใหม่ที่รู้จักแบรนด์แต่ยังไม่เคยเลือก

➡️ 6. เพราะคุณต้องการ “ทีมที่เข้าใจในสิ่งเดียวกัน”

ที่ปรึกษาจะช่วยให้ “คุณ” และ “ทีมของคุณ” เข้าใจทิศทางของแบรนด์ ไปในทางเดียวกัน เพื่อเปลี่ยนจาก “ธุรกิจที่ต้องรอเจ้าของ” ไปสู่ “ทีมที่ทำงานแทนได้”

➡️ 7. เพราะคุณต้องการ “เติบโตแบบก้าวกระโดด ไม่ใช่ค่อยเป็นค่อยไป”

ที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ จะรู้ว่า “จุดไหนต้องทุ่ม” “จุดไหนต้องเบรก” “จุดไหนต้องลุย” คุณจึงไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้จากความผิดพลาดหลาย ๆ ปี ที่สร้างความเสียหายมหาศาล กว่าจะได้เรียนรู้บางอย่าง

➡️ 8. เพราะคุณต้องการ “แบรนด์ที่คนอยากติดตาม ไม่ใช่แค่ขายได้”

“การสร้างแบรนด์เชิงกลยุทธ์” ไม่ใช่แค่เรื่องการขาย แต่คือการสร้าง “แบรนด์ที่น่าดึงดูด” ที่ปรึกษาจะช่วยคุณวางกลยุทธ์เพื่อสร้างผู้ติดตาม (สาวก) เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่และยั่งยืนในระยะยาว

➡️ 9. เพราะคุณต้องการ “ยกระดับของแบรนด์ให้สูงกว่าที่เป็นอยู่”

การที่แบรนด์ของคุณ อยู่ในตลาดได้อย่างดี มาหลายปี ไม่ได้แปลว่า “จะดีขึ้นอีกไม่ได้” ที่ปรึกษาจะมองเห็นศักยภาพที่คุณยังไม่ได้ใช้หรือคุณอาจยังมองไม่เห็น เพื่อช่วยให้แบรนด์ของคุณ ขึ้นไปอยู่ในระดับที่คู่แข่งมองคุณเป็น “แบรนด์ต้นแบบ” (Benchmark)

➡️ 10. เพราะคุณไม่ได้ต้องการแค่ “อยู่รอด” แต่คุณต้องการ “นำตลาด”

ที่ปรึกษาไม่ได้แค่พาคุณหลบวิกฤต แต่จะพาคุณ “เปลี่ยนสถานะ” จากแบรนด์ที่ “วิ่งตามตลาด” ไปสู่แบรนด์ระดับ “แถวหน้า” ที่สามารถกำหนดทิศทางของตัวเองได้

✅ ขั้นตอนการให้บริการ Private Consult เพื่อ “รีแบรนด์เชิงกลยุทธ์” (Strategic Rebranding)

1. เริ่มต้นด้วยการพูดคุยเบื้องต้นผ่าน LINE

ลูกค้าทัก LINE เพื่อพูดคุยกับ “ที่ปรึกษา” โดยตรง เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของธุรกิจ ปัญหาที่กำลังเผชิญ และเป้าหมายที่ต้องการให้แบรนด์เติบโตไปถึง

2. กำหนดวันเข้ารับ Private Consult แบบตัวต่อตัว

ลูกค้าสามารถเลือกวันที่สะดวกสำหรับการให้คำปรึกษาเต็มวัน (เวลา 10:00 – 17:00 น.) โดยตลอดทั้งวันจะเป็นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแนวทาง “รีแบรนด์เชิงกลยุทธ์” อย่างเป็นระบบ

3. ยืนยันวันนัดด้วยการชำระค่าบริการเต็มจำนวน

เมื่อทำการชำระค่าบริการ วันและเวลาที่ลูกค้าเลือก จะถูก “ล็อกไว้เฉพาะ” สำหรับลูกค้าท่านนั้นทันที ที่ปรึกษาจะไม่รับงานอื่นในวันเดียวกัน เพื่อให้สามารถโฟกัสได้อย่างเต็มที่

4. เข้ารับคำปรึกษาแบบเข้มข้นตลอดวัน

Private Consult 1 วันเต็ม (10:00 – 17:00 น.) วิเคราะห์ธุรกิจ และวางกลยุทธ์สู่ทิศทางใหม่ หากยังไม่ได้ข้อสรุปที่ครบถ้วน ที่ปรึกษาจะ Consult ต่อ จนกว่าจะได้แผนที่ชัดเจนและนำไปใช้ได้จริง

5. ดูแลต่อเนื่อง ตลอด 2 เดือน หลังการ Consult

หลังวันให้คำปรึกษา ที่ปรึกษาจะยังคงเป็น “พาร์ตเนอร์ทางกลยุทธ์” ให้กับลูกค้าอีก 2 เดือน พร้อมให้คำแนะนำเชิงลึกด้านแบรนด์และการตลาดออนไลน์ สามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน เพื่อให้แน่ใจว่าแบรนด์จะเดินไปในทิศทางที่วางไว้จริง

✅ ค่าบริการ Private Consult เพื่อ “รีแบรนด์เชิงกลยุทธ์” (Strategic Rebranding)

• Private Consult เจ้าของแบรนด์ 1 วัน เวลา 10:00 - 17:00 น. โดยลูกค้าสามารถเลือกวันได้เอง

• เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้กับลูกค้าเป็นเวลา 2 เดือน (เฉพาะเจ้าของแบรนด์ที่เข้าร่วม Private Consult เท่านั้น ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กร)

• ไม่มี Consult สำหรับทีมงานและพนักงาน

• ค่าบริการคิดตามจำนวนลูกค้าที่เข้าร่วม Private Consult

• ค่าบริการสำหรับลูกค้าท่านแรก 39,900 บาท ราคานี้รวม VAT 7% แล้ว (กรณี หัก ณ ที่จ่าย 3%, ยอดโอน 38,781.31 บาท, ยอด หัก ณ ที่จ่าย 1,118.69 บาท)

• ค่าบริการสำหรับลูกค้าท่านที่สองเป็นต้นไป คิดเพิ่มท่านละ 19,900 บาท ราคานี้รวม VAT 7% แล้ว (กรณี หัก ณ ที่จ่าย 3%, ยอดโอน ท่านละ 19,342.06 บาท, ยอด หัก ณ ที่จ่าย ท่านละ 557.94 บาท)

✅ วิธีชำระเงินและวิธีแจ้งชำระเงิน

➡️ วิธีชำระเงิน

ชำระเงินโดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของบริษัท

ธนาคารกสิกรไทย
สาขา เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น
ชื่อบัญชี บจก. แบรนดิ้ง แอนด์ โซเชียล มีเดีย มาร์เก็ตติ้ง สแทรททิจิ (ประเทศไทย)
เลขที่บัญชี 9542180827

➡️ วิธีแจ้งชำระเงิน

แจ้งชำระเงินได้ 3 ช่องทาง คือ โทรศัพท์, LINE และ Messenger

✅ ข้อมูลบริษัท สำหรับทำหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย

• บริษัท แบรนดิ้ง แอนด์ โซเชียล มีเดีย มาร์เก็ตติ้ง สแทรททิจิ (ประเทศไทย) จำกัด (สำนักงานใหญ่)

• เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 0105557128025

• ที่อยู่ 299/754 หมู่บ้าน มัณฑนา เลค วัชรพล ถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 63/2 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 10220

• ให้ลูกค้านำหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย มายื่นในวันทำ Private Consult

• รับ ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ในวันทำ Private Consult

bottom of page