Service
บริการเป็นที่ปรึกษาในการ “สร้างแบรนด์” และ “ทำตลาดออนไลน์” ให้บริการทุกขั้นตอนโดย คุณอลงกรณ์ ดอกดวง (Founder & MD of BRANDING.co.th) ประสบการณ์ในการสอนและให้คำปรึกษาแบรนด์ต่าง ๆ กว่า 10 ปี
เหมาะสำหรับ
1. เจ้าของแบรนด์ที่คิดใหญ่ (เป้าหมาย 100 ล้าน ขึ้นไป)
2. แบรนด์ที่ต้องการเหนือกว่าคู่แข่ง
3. แบรนด์ที่ขายของราคาสูง
4. แบรนด์ที่ต้องการปิดการขายลูกค้ารายใหญ่
5. แบรนด์ที่มีลูกค้าเป็นกลุ่มบน
ขั้นตอนการทำงาน
ขั้นตอนที่ 1 : วิเคราะห์ธุรกิจ เพื่อดูโมเดลธุรกิจ และหา ความแพง, ความต่าง และศักยภาพที่ซ่อนอยู่
ขั้นตอนที่ 2 : ออกแบบแบรนด์ใหม่ (หรือรีแบรนด์) ให้ “ชัด แพง ต่าง” และอยู่ในรูปแบบของ “แบรนด์ระดับมืออาชีพ”
ขั้นตอนที่ 3 : “วางระบบ” สำหรับทำตลาดออนไลน์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า, รวดเร็วกว่า, ยั่งยืนกว่า, บริหารธุรกิจได้ง่ายกว่า และ สามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทันที
ขั้นตอนที่ 4 : สอนงานทีมการตลาดออนไลน์ เกี่ยวกับการใช้งานระบบ และการทำตลาดออนไลน์
Digital Marketing Mindset
ขอแนะนำหลักสูตร Digital Marketing Mindset หลักสูตรสำหรับเจ้าของกิจการ โดยหลักสูตรนี้เหมาะที่สุดสำหรับเจ้าของกิจการที่คิดใหญ่ (เป้าหมาย 100 ล้าน ขึ้นไป)
หลังเรียนจบ ผู้บรรยายจะเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้คุณ 2 เดือน เพื่อเป็นพี่เลี้ยง พาคุณ
1. วิเคราะห์ธุรกิจ แล้วออกแบบแบรนด์ใหม่ ให้ “ชัด แพง ต่าง” และอยู่ในรูปแบบของ “แบรนด์ระดับมืออาชีพ” สำหรับแบรนด์ที่ต้องการเหนือกว่าคู่แข่ง, แบรนด์ที่ขายของราคาสูง, แบรนด์ที่ต้องการปิดการขายลูกค้ารายใหญ่ หรือ แบรนด์ที่มีลูกค้าเป็นกลุ่มบน
2. “วางระบบสำหรับทำ Digital Marketing” เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าอย่างชัดเจน, รวดเร็วกว่า, ยั่งยืนกว่า, บริหารธุรกิจได้ง่ายกว่า และ สามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทันที
บรรยายและเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้ 2 เดือน โดย คุณอลงกรณ์ ดอกดวง (Founder & MD of BRANDING.co.th) ประสบการณ์ในการสอนและให้คำปรึกษาแบรนด์ต่าง ๆ กว่า 10 ปี
“3 เรื่อง” ที่ต้องรู้ ก่อนที่คุณจะ “สร้างแบรนด์” และ “ทำตลาดออนไลน์” อย่างจริงจัง (เพื่อไม่ให้เสียเวลา)
1. คิดจะจับวาฬ (ลูกค้ากลุ่มบน) คุณต้องขุดอ่าวให้กว้างและลึก พอที่วาฬจะว่ายเข้ามาได้
จงอย่าคุยเรื่องราคากับวาฬ เพราะวาฬ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน แต่ปัญหาของวาฬคือ พวกเขาหาสิ่งที่ “พิเศษ” แบบที่อยากได้ไม่เจอ ดังนั้น คุณต้องรู้วิธีทำให้แบรนด์ของคุณ (1) มีความพิเศษ (2) มีความเกินมาตรฐาน และ (3) มีความสมฐานะกับวาฬ ด้วยการออกแบบแบรนด์ ให้ “ชัด แพง ต่าง” และอยู่ในรูปแบบของ “แบรนด์ระดับมืออาชีพ” เพราะลูกค้ากลุ่มวาฬ จะเลือกมืออาชีพเท่านั้น ไม่ใช่ใครก็ได้
การออกแบบแบรนด์ ให้ “ชัด แพง ต่าง” และอยู่ในรูปแบบของ “แบรนด์ระดับมืออาชีพ” ไม่ใช่แค่จะทำให้แบรนด์ของคุณ มีโอกาสที่จะถูกวาฬเลือกเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้แบรนด์ใหม่ที่เพิ่งจะเปิดตัว สามารถอยู่ในทรงเหมือนเจ้าตลาด ดูเหมือนเป็นแบรนด์เก่าแก่ที่เปิดมานานแล้ว ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเปิดตัว (ทรงยึดหัวหาดในวงการ)
ถ้าแบรนด์ของคุณ อยู่ในทรงของเจ้าตลาด สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ แบรนด์ของคุณจะมีความน่าเชื่อถือสูง คล้าย ๆ แบรนด์ที่มีชื่อเสียงหรือแบรนด์เก่าแก่ กลยุทธ์นี้สามารถช่วยลดระยะเวลาและลดค่าการตลาดให้คุณได้อย่างมหาศาล นี่คือกลยุทธ์ที่ไม่อาจประเมินค่าได้
นอกจากนี้ การออกแบบแบรนด์ ให้ “ชัด แพง ต่าง” และอยู่ในรูปแบบของ “แบรนด์ระดับมืออาชีพ” ยังสามารถช่วยคุณต่อสู้ในสงครามราคาได้อีกด้วย เพราะเวลาผู้คนจะซื้อบางสิ่ง พวกเขาไม่ได้เจอแบรนด์ของคุณแค่แบรนด์เดียว แต่พวกเขาจะเจอคู่แข่งของคุณอีกนับสิบ ๆ แบรนด์อย่างง่ายดาย ภายใน 1 นาที
ถ้าแบรนด์ของคุณบนโลกออนไลน์ อยู่ในทรงที่เหนือกว่าคู่แข่ง จะทำให้กลุ่มเป้าหมายของคุณ คัดคู่แข่งของคุณทิ้งทีละแบรนด์ แล้วเหลือแบรนด์ของคุณไว้เป็นคำตอบของพวกเขา ดังนั้น การทำ SEO และคุณติดหน้าแรก Google ก็ยังไม่พอ แต่คุณจะต้องรู้วิธี “ออกแบบแบรนด์” ให้ “ชัด แพง ต่าง” และอยู่ในรูปแบบของ “แบรนด์ระดับมืออาชีพ” ด้วย จึงจะมีโอกาสชนะในสงครามราคา (คือต้องทำให้กลุ่มเป้าหมายคัดคู่แข่งของคุณทิ้ง)
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
หากท่านต้องการคุยประเด็นนี้เพิ่มเติม กับ คุณอลงกรณ์ ดอกดวง (Founder & MD of BRANDING.co.th) ซึ่งเป็นผู้เขียนบทความนี้ กรุณาทัก LINE
2. ยอดขายไม่ได้เกิดจาก คุณเข้าถึงคนที่ใช่ แต่เกิดจาก คุณคือคนที่ใช่ ของคนที่คุณเข้าถึง (คุณไม่ได้จีบสาวติด เพราะสาวเป็นสเปกของคุณ แต่เพราะคุณเป็นสเปกของสาว)
เราอยากให้คุณ อ่านเรื่องนี้ช้า ๆ
มีหนุ่มคนนึง จะไปจีบสาวในสเปกซึ่งยังโสด ที่งานเลี้ยงแห่งหนึ่ง (คนที่ใช่ของตัวเอง) จึงเรียกรถจากแอพให้ไปส่งที่งานเลี้ยงแห่งนั้น คนขับก็พาไปส่งยังงานเลี้ยงดังกล่าว แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งวัน หนุ่มคนนี้ก็ได้โทรไปต่อว่า “คนขับรถ” ว่าเป็นเพราะคนขับรถ จึงทำให้ตัวเองจีบสาวในสเปกที่งานเลี้ยงไม่ติด
/// ความหมายของตัวละครแต่ละตัว
1. หนุ่มคนนี้ คือ “แบรนด์” ที่ต้องการปิดการขายกลุ่มเป้าหมายบนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็น “คนที่ใช่”
2. คนขับรถ คือ “Ads” เช่น Facebook Ads หรือ Google Ads ซึ่งเป็นเพียงผู้พาแบรนด์ไปส่ง และพาไปส่งไม่ผิด คือ Ads ไม่ได้ทำหน้าที่ผิดพลาด คือยิง Ads ตรงกลุ่มนั่นเอง
3. สาวในสเปก คือ กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ ซึ่งเป็น “คนที่ใช่”
/// คำถามที่น่าสนใจคือ
1. คนขับรถ (Ads) ถูกด่า ทั้ง ๆ ที่พาไปส่งไม่ผิด คุณคิดว่า “คนขับรถ” ต้องรับผิดชอบ “การจีบสาวไม่ติด” ของหนุ่มคนนี้ไหมครับ ?
2. จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหนุ่มคนนี้ คือ “ผู้ชายในสเปก” ของสาวโสดที่ตัวเองไปจีบ ?
/// ข้อสรุปจากเรื่องนี้คือ
1. “ยอดขายไม่ได้เกิดจาก คุณเข้าถึงคนที่ใช่ แต่เกิดจาก คุณคือคนที่ใช่ ของคนที่คุณเข้าถึง” (หนุ่มคนนี้จะจีบสาวติด ถ้าเขาเป็นสเปกของสาวที่ตัวเองไปจีบ ไม่ได้จีบติดเพราะสาวเป็นสเปกของเขา)
2. ถ้าไปจีบโดยที่ตัวเองไม่ใช่สเปกของสาว เราเรียกว่าไป “ตี๊อ” คุณอาจเคยได้ยินว่า มีบางแบรนด์ที่ยิง Ads จนเจ๊ง คือตื๊อจนเจ๊งนั่นเอง
3. หนุ่มคนนี้ควรทำการบ้านก่อนว่า “ผู้ชายในสเปก” ของสาวที่ตัวเองจะไปจีบ นั้นเป็นยังไง แล้วทำตัวเองให้เป็นสเปกของสาวคนนั้นก่อน แล้วค่อยไปจีบ (บินไปเกาหลี ศัลยกรรมทั้งตัว ให้หล่อและเป็น “ผู้ชายในสเปก” ของสาวโสดที่ตัวเองจะไปจีบ)
4. การทำให้หนุ่มคนนี้เป็นสเปกของสาวที่ตัวเองจะไปจีบ คือการ “ออกแบบแบรนด์” ให้ “ชัด แพง ต่าง” และอยู่ในรูปแบบของ “แบรนด์ระดับมืออาชีพ”
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
หากท่านต้องการคุยประเด็นนี้เพิ่มเติม กับ คุณอลงกรณ์ ดอกดวง (Founder & MD of BRANDING.co.th) ซึ่งเป็นผู้เขียนบทความนี้ กรุณาทัก LINE
3. ถ้าแอดมินของคุณ ปิดการขายไม่ได้ และคุณกำลังเหนื่อยกับแอดมิน ลองอ่านบทความนี้
/// นี่คือความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ถ้าคุณไม่วางระบบก่อน แล้วค่อยทำตลาดออนไลน์
ถ้าไม่วางระบบ คุณจะดึงลูกค้าเข้าแชท (Line หรือ Messenger) เพื่อให้แอดมิน (หรือคุณ) เป็นเดอะแบก คอยอธิบายโดยเริ่มต้นจาก 0 ทุกเคส เหนื่อยแล้วยังไม่พอ ถ้าคุณฝากยอดขายเอาไว้กับแอดมินที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในสิ่งที่ขาย จะทำให้เปอร์เซ็นต์ที่ปิดได้นั้นต่ำมาก ๆ ถ้าคุณยิง Ads ก็เท่ากับยิง Ads ดึงคนมาให้เสียของฟรี ๆ และคุณก็ต้องเหนื่อยกับการสอนงานแอดมิน ให้พอทำงานได้ หากเป็นงานแล้วลาออก คุณก็ต้องเหนื่อยกับการสอนแอดมินคนใหม่ วนลูปอยู่อย่างนี้ ไม่มีวันจบสิ้น
/// แล้วถ้าคุณวางระบบล่ะ ชีวิตของคุณจะดีขึ้นยังไง
ถ้าคุณวางระบบ คุณจะดึงกลุ่มเป้าหมายไปที่ “ระบบปิดการขายอัตโนมัติ” เมื่อลูกค้าศึกษาข้อมูลสินค้าแล้ว หากตัดสินใจซื้อหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ก็จะมีปุ่มแชท (Line หรือ Messenger) ให้ลูกค้าทัก คือให้ลูกค้าศึกษาข้อมูลก่อน แล้วจึงค่อยให้ทักแชท จึงไม่มีใครต้องเหนื่อยกับการอธิบายโดยเริ่มต้นจาก 0 ทุกเคส นอกจากจะไม่เหนื่อยแล้ว คุณก็ไม่ต้องเสี่ยงฝากยอดขายเอาไว้กับแอดมินที่ไม่เชี่ยวชาญในสิ่งที่ขาย เพราะระบบจะนำเสนอข้อมูลอย่างเชี่ยวชาญ และมีประสิทธิภาพสูงเหมือนเดิมทุกครั้ง ตามที่คุณออกแบบไว้ วิธีนี้จะให้ระบบเป็นตัวหลักในการปิดการขาย ส่วนแอดมินจะให้เป็นตัวเสริมและคอยดูแลลูกค้าเพื่อสร้างความประทับใจ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
หากท่านต้องการคุยประเด็นนี้เพิ่มเติม กับ คุณอลงกรณ์ ดอกดวง (Founder & MD of BRANDING.co.th) ซึ่งเป็นผู้เขียนบทความนี้ กรุณาทัก LINE
เนื้อหาของหลักสูตร Digital Marketing Mindset
1. หาก “โครง” ยังไม่ได้ อย่าเพิ่งไปเก็บ “รายละเอียด” เพราะคุณจะต้อง “รื้อโครงทำใหม่” อยู่ดี
• การสร้างบ้าน
การเก็บรายละเอียดก่อนที่โครงจะสมบูรณ์ เปรียบเสมือนการสร้างบ้านโดยยังไม่วางฐานรากให้แข็งแรงก่อน หากคุณเริ่มเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น การตกแต่งภายในหรือการติดตั้งระบบต่างๆ โดยที่โครงสร้างหลักยังไม่แข็งแรง หรือยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างเหมาะสม สุดท้ายคุณอาจจะต้องรื้อโครงสร้างนั้นออกมาใหม่เพราะมันไม่สามารถรองรับน้ำหนักหรือทำงานได้ตามที่ต้องการ
• การสร้างแบรนด์
ในทางเดียวกันกับการทำงานหรือการทำธุรกิจ การกำหนดโครงสร้างหลัก เช่น วางแผนกลยุทธ์ กำหนดเป้าหมาย และสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้กับธุรกิจ มีความสำคัญอย่างยิ่ง หากคุณเริ่มโฟกัสที่รายละเอียด เช่น การออกแบบเล็กๆ น้อยๆ หรือการดำเนินการที่เฉพาะเจาะจงมากๆ โดยยังไม่ได้มีแผนที่ชัดเจน คุณอาจจะพบว่าต้องย้อนกลับมาแก้ไขหรือเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ดังนั้นการทำงานให้มีประสิทธิภาพจึงควรเริ่มต้นจากการสร้างโครงหลักให้สมบูรณ์ก่อนที่จะไปใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
2. รู้จัก หลักสูตร Digital Marketing Mindset
• เนื้อหาของหลักสูตรนี้ จะไม่เหมือนหลักสูตรใด ที่คุณเคยเรียน (ฟีดแบคจากผู้เรียน) โดยจะมีการ “วิเคราะห์ธุรกิจ” และ “ออกแบบแบรนด์” ให้กับผู้เรียน (ไม่ใช่ CI) ท่านละ 1 แบรนด์ เพื่อให้ได้แบรนด์ที่ “ชัด แพง ต่าง” และอยู่ในรูปแบบของ “แบรนด์ระดับมืออาชีพ”
• บรรยาย+วิเคราะห์+ออกแบบ และ ให้คำปรึกษาหลังเรียนจบ 2 เดือน โดย คุณอลงกรณ์ ดอกดวง (Founder & MD of BRANDING.co.th) ประสบการณ์กว่า 10 ปี ในการสอนและให้คำปรึกษา เกี่ยวกับการสร้างแบรนด์และการทำตลาดออนไลน์
• หลักสูตร Digital Marketing Mindset (วิธีคิดพิชิตตลาดดิจิทัล) ถือเป็น “กระดุมเม็ดแรก” ของการทำ Digital Marketing เพราะเป็นการมองภาพรวม (โครงสร้าง) และกำหนดทิศทาง (Mindset) ที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งเป็นการวางรากฐานที่สำคัญ, ทรงพลัง, ยั่งยืน, เป็นระบบ และมีความเป็นมืออาชีพ ให้กับแบรนด์ของคุณตั้งแต่เริ่มต้น
• การให้บริการทั้งหมดของหลักสูตร Digital Marketing Mindset จะอยู่ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) จะไม่ถ่ายภาพผู้เรียน จะไม่สัมภาษณ์ผู้เรียน จะไม่ทำรีวิวผู้เรียน จะไม่โพสต์กิจกรรมลงสื่อออนไลน์ โดยที่ผู้เรียนไม่ได้อนุญาต
3. เนื้อหาของหลักสูตร Digital Marketing Mindset
3.1 กลยุทธ์ในการทำ Digital Marketing
• ที่ทรงพลัง
• มีวิธีการลงมือทำที่ชัดเจน
• มีความแตกต่าง
• มีประสิทธิภาพสูง
• มีความเป็นมืออาชีพ
• มีความยั่งยืน
• เข้าใจง่าย ทำได้จริง
• เรียนรู้เรื่องทุกคน ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่เก่งก็เรียนได้ แค่เป็นเจ้าของกิจการที่ต้องการสร้างแบรนด์และทำตลาดออนไลน์อย่างจริงจังและยั่งยืน (เน้นว่าจริงจัง ไม่ใช่ฉาบฉวยและหยุมหยิม)
3.2 กลยุทธ์ในการ “วางระบบ” ก่อนทำตลาดออนไลน์ (คืออย่าเพิ่งทำตลาด แต่ให้วางระบบก่อน)
• จะแนะนำเครื่องมือที่ใช้
• จะแนะนำวิธีการ (จะไม่ได้พาทำ เพียงให้รู้แนวทาง อาจไปศึกษาเพื่อทำเอง หรือไปจ้างคนอื่นทำให้ หรือจ้างผู้บรรยายทำให้)
3.3 กลยุทธ์ในการ “ออกแบบธุรกิจ” ให้ “ชัด แพง ต่าง” และอยู่ในรูปแบบของ “แบรนด์ระดับมืออาชีพ” ก่อนที่จะสร้างแบรนด์และทำตลาดออนไลน์
• จะทำให้แบรนด์ของคุณ มีจุดขายที่ชัดเจน, มีความเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน, มีความแตกต่าง, มีความน่าเชื่อถือสูง และมีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งจะส่งผลต่อการขายสินค้าราคาสูง และจะเพิ่มโอกาสในการปิดการขายลูกค้ารายใหญ่
• เราไม่ได้ให้คุณเฟค, หลอกลวงผู้บริโภค, โฆษณาเกินจริง หรือไม่ตรงปก แต่เราจะพูดถึงกลยุทธ์ในการพรีเซนต์ “ของแพง” ที่คุณมีอยู่ ให้ได้ราคาตามจริง ไม่ให้ “เสียของ”
3.4 สงครามอวกาศ vs การตลาดออนไลน์ มาดูกันว่า ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในการทำสงครามอวกาศของคุณ มีโอกาสที่จะชนะหรือไม่
3.5 “Mindset” ในการสร้างแบรนด์ และทำ Digital Marketing อย่างยั่งยืน อย่างเป็นระบบ จากประสบการณ์กว่า 10 ปี โดย ผู้ก่อตั้ง BRANDING.co.th
3.6 การวางแผน เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของ Social Media เช่น Facebook หรือช่องทางอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของคุณอย่างรุนแรง
3.7 การวางแผนอย่างชาญฉลาด ก่อนซื้อโฆษณา เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า อย่างชัดเจน
3.8 เนื้อหาที่อาจเกิดจากการตั้งคำถามของผู้เรียน
3.9 ยังมีเนื้อหาอื่น ๆ อีก (ของดีแน่นอน)
3.10 บรรยายเป็นภาษาไทย ด้วยภาษาง่าย ๆ ไม่มีศัพท์การตลาด
3.11 ในหลักสูตรนี้ ผู้บรรยายจะช่วย “วิเคราะห์แบรนด์” ให้กับผู้เรียนด้วย โดย 100% ของลูกค้าที่มาเรียน แบบ Private จะ “รีแบรนด์” และ “ปรับโมเดลธุรกิจ” ใหม่ ตามคำแนะนำของผู้บรรยาย (ตามความสมัครใจ ไม่ได้บังคับ) เป็นการ “ยกเครื่องธุรกิจใหม่” ที่ทำให้แบรนด์ของผู้เรียน มีความแตกต่างจากเดิมมาก (คือ “ชัด แพง ต่าง” และอยู่ในรูปแบบของ “แบรนด์ระดับมืออาชีพ”)
3.12 หลักสูตร Digital Marketing Mindset เป็นแบบ กึ่งบรรยาย กึ่ง Consult ผู้บรรยายจะช่วยวิเคราะห์แบรนด์ให้กับผู้เรียน 1 แบรนด์ (ในแง่ของการทำ Digital Marketing) โดยจะเอาธุรกิจของผู้เรียนขึ้นจอเลย จะไม่ทฤษฎีเยอะ จะไม่มี PowerPoint
3.13 หลังเรียนจบ ผู้บรรยายจะเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้กับผู้เรียน 2 เดือน สามารถขอคำปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน 3 ช่องทาง คือ โทรศัพท์ 097-225-2555, LINE ID @branding และ Messenger
4. สิ่งที่หลักสูตรนี้ไม่ได้สอน
4.1 หลักสูตรนี้ ไม่ได้พาผู้เรียนเริ่มต้นก่อตั้งธุรกิจ แต่เป็นหลักสูตรสำหรับผู้ที่มีธุรกิจแล้ว และต้องการสร้างแบรนด์และทำตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง
4.2 หลักสูตรนี้ ไม่ได้สอนการบริหารธุรกิจ ไม่ได้สอนการบริหารจัดการภายในองค์กร เช่น การบริหารคน, การพัฒนาสินค้า, การผลิต เป็นต้น
4.3 หลักสูตรนี้ จะไม่ได้ทำอะไรให้กับผู้เรียนทั้งสิ้น แต่เป็นการปรับ Mindset และพูดถึงสิ่งที่ต้องทำ ที่ผู้เรียนจะต้องไปทำเอง
• จะไม่ได้ดูแลสื่อออนไลน์ให้ ไม่ว่าจะช่องทางใด ๆ
• จะไม่ได้บริหารธุรกิจให้
• จะไม่ได้รับบริหารธุรกิจ
• จะไม่ได้พาเขียนคอนเทนท์
• จะไม่ได้พายิง Ads
• ฯลฯ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้บรรยายโดยตรง (คุณอลงกรณ์ ดอกดวง, Founder & MD of BRANDING.co.th)
หลักสูตร Digital Marketing Mindset เหมาะสำหรับใครบ้าง
/// หลักสูตรนี้เหมาะที่สุดสำหรับเจ้าของกิจการที่คิดใหญ่ (เป้าหมาย 100 ล้าน ขึ้นไป)
/// หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรสำหรับเจ้าของกิจการเท่านั้น ไม่สามารถส่งทีมงานหรือผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของมาเรียนแทนได้
1. หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับธุรกิจทุกประเภท
2. แบรนด์ที่จำหน่าย สินค้า/บริการ ราคาสูง
3. แบรนด์ที่ต้องการปิดการขายลูกค้ารายใหญ่
4. แบรนด์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสายต่าง ๆ
5. แบรนด์ที่ลงทุนทำตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง
6. แบรนด์ที่ลงทุนสร้างแบรนด์อย่างจริงจัง
7. แบรนด์ที่ต้องการทำ Digital Transformation
8. แบรนด์ที่ต้องการยกระดับของแบรนด์ให้สูงกว่าเดิม
9. แบรนด์ที่ต้องการขยายขนาดของธุรกิจ
10. แบรนด์ที่ติดเพดานหรือเจอทางตัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้บรรยายโดยตรง (คุณอลงกรณ์ ดอกดวง, Founder & MD of BRANDING.co.th)
ผู้บรรยายและให้คำปรึกษา
การสร้างแบรนด์ และการทำ Digital Marketing เป็น “ศาสตร์” และ “ศิลป์” ที่ต้องมีชั่วโมงบินที่มากพอ จึงจะจับต้นชนปลายถูก และการถ่ายทอดจากประสบการณ์จริง ที่หวังผลในทางปฏิบัติ จำเป็นที่ผมและผู้เรียนจะต้องมาเจอหน้ากันจริง ๆ เพราะมันมีรายละเอียดที่ต้องเก็บ นี่คือเหตุผลว่าทำไมผมจึงยังไม่มีหลักสูตรออนไลน์ในตอนนี้ เพราะผมยังไม่มีวิธีสอนออนไลน์ที่ให้ผลลัพธ์แบบที่ผมต้องการ
หลักสูตรของผม จะรับผู้เรียนครั้งละไม่กี่ท่านเท่านั้น เช่น 3 ท่าน, 5 ท่าน, 10 ท่าน และหลังเรียนจบ ผมจะเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้กับผู้เรียนทุกท่านด้วย เพราะผมเชื่อว่า หากให้ผู้เรียนไปทำเองตามลำพัง จะทำให้ไปช้ามาก ๆ และอาจไม่ตรงตามกลยุทธ์ของหลักสูตร โดยการเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้กับผู้เรียน ผมจะทำหน้าที่ 3 อย่างนี้
1. การโค้ช (Coaching)
2. เป็นพี่เลี้ยง (Mentoring) และ
3. เวิร์คช็อป (Workshop) แบบจับมือทำ (ไม่ทุกหลักสูตร)
โดยผู้เรียนสามารถขอคำปรึกษาได้ทุกช่องทาง ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
(ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน “ข้อตกลง & เงื่อนไข”)
ผมเริ่มพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลอย่างจริงจัง เมื่อ ปี 2543 (แต่เริ่มให้บริการ เมื่อ ปี 2555) เพื่อแก้ปัญหาให้กับธุรกิจ สิ่งที่ผมทำคือการ “ประยุกต์” แล้ว “เชื่อมโยง” องค์ความรู้ทั้งหมดที่ผมมีอยู่
ผมพัฒนาตัวเอง และสะสมทักษะด้านดิจิทัลมาเรื่อย ๆ ผ่านการลงมือทำ มันคือการ “พล็อตจุด” ลงบนแผ่นกระดาษมานานกว่า 20 ปี มีทั้งจุดที่แสนจะธรรมดาและจุดที่ค่อนข้างซับซ้อน จุดที่ถูกพล็อตลงบนแผ่นกระดาษของผม ไม่ได้มีแค่ทักษะด้านดิจิทัลเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงศาสตร์และศิลป์ทั้งหมดที่อยู่บนเส้นทางการพัฒนาตัวเองของผม เพราะเพื่อที่จะแก้ปัญหาหนึ่ง ๆ การใช้ทักษะด้านดิจิทัลเพียงมิติเดียว นั้นยังไม่พอ เราต้องประยุกต์แล้วเชื่อมโยงองค์ความรู้ทั้งหมดที่เรามี เพื่อแก้ปัญหานั้น ๆ ด้วย
ทุกทักษะ ทุกศาสตร์ ทุกศิลป์ คือจุดหนึ่งจุดบนแผ่นกระดาษ เมื่อแผ่นกระดาษของเรามีจำนวนจุดที่มากพอ และหลายมิติพอ ก็จะทำให้เราสามารถลากเส้นต่อกันให้กลายเป็น “รูปร่าง” ได้
ตัวอย่างเช่น “การสร้างแบรนด์” เราต้องใช้จุดจำนวนมาก เพื่อลากเส้นต่อกัน ให้มันกลายเป็น “รูปร่าง” และไม่ได้ใช้แค่ทักษะด้านดิจิทัลเพียงมิติเดียวเท่านั้น แต่ต้องประยุกต์แล้วเชื่อมโยงศาสตร์และศิลป์ทั้งหมดที่เรามีอยู่ เพื่อสร้างแบรนด์
ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาให้ความสนใจ หลักสูตร Digital Marketing Mindset (วิธีคิดพิชิตตลาดดิจิทัล)
อลงกรณ์ ดอกดวง
• Founder & MD of BRANDING.co.th
• ผู้บรรยายและให้คำปรึกษา หลักสูตร Digital Marketing Mindset
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้บรรยายโดยตรง
วัน, เวลา และสถานที่เรียน
เรียน 1 วัน โดยลูกค้าสามารถเลือกวันเรียนได้เอง (หลังเรียนจบผู้บรรยายจะเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้กับผู้เรียน 2 เดือน)
เวลาเรียน 10:00 - 17:00 น. เริ่มบรรยายตรงเวลา
เรียนที่ บริษัท แบรนดิ้ง แอนด์ โซเชียล มีเดีย มาร์เก็ตติ้ง สแทรททิจิ (ประเทศไทย) จำกัด
ที่ตั้งบริษัท : 299/754 หมู่บ้าน มัณฑนา เลค วัชรพล ถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 63/2 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 10220 (เข้าหมู่บ้านได้หลายเส้นทาง รวมถึง ซอย สายไหม 56)
คลิกหมุดสีแดง เพื่อดู Google Maps